บทที่ 9 ตอนที่ 9

“ถ้าไม่ยอมตอบออกมาดีๆ ผมจะเค้นคำตอบจากคุณด้วยวิธีของผมเอง”

คนฟังหน้าซีดเผือด พยายามจะดิ้นหนี แต่อ้อมแขนกำยำไม่ยอมปลดปล่อย แถมรัดแน่นยิ่งขึ้น แน่นจนหล่อนรับรู้ได้ถึงความผิดปกติของเขาที่หน้าท้อง

“ปล่อยฉันนะคะ ฉันจะกลับแล้ว”

“จนกว่าคุณจะมีคำตอบให้ผม ถึงจะได้กลับ แองเจิล”

“ผมต้องขอโทษแทนน้องสาวของผมด้วยนะครับ ถ้าเธอทำให้ผู้ยิ่งใหญ่อย่างคุณไทโรน คาร์ตันต้องขัดเคืองใจ”

เสียงสุภาพคุ้นหูที่ดังขึ้นทำให้พุดแก้วยิ่งหน้าซีดขาว ซีดมากจนไทโรนอดประหลาดใจไม่ได้ แต่เขาก็ไม่คิดจะใส่ใจ เขาหันไปมองผู้มาเยือน แล้วระบายยิ้มเย็น จากนั้นก็ปล่อยร่างบอบบางหอมกรุ่นของพุดแก้วออกจากการพันธนาการ

“นึกว่าใคร โทมัสบราวน์นั่นเอง”

“พี่ทอม”

พุดแก้วอุทานชื่อพี่ชายในลำคอ จากนั้นก็จำต้องเดินอ้อมร่างสูงสง่าของไทโรนมาหยุดอยู่ด้านหลังของพี่ชายต่างสายเลือด

โทมัสมองหล่อนตาขุ่น ก่อนจะหันไปปั้นยิ้มกับไทโรน

“น้องสาวผมหนีออกมาเที่ยวกลางคืน ผมมาตามหา และตอนนี้ก็กำลังจะกลับ ต้องขอโทษคุณไทโรนด้วยนะครับ ถ้าทำให้เดือดร้อน”

ไทโรนชำเลืองมองพุดแก้วด้วยสายตาอ่านความรู้สึกไม่ออก จากนั้นก็เลื่อนไปจับจ้องใบหน้าของโทมัสแทน

“ถ้าแค่มาเที่ยว ผมใจกว้างพอที่จะไม่กีดกั้นคู่แข่งทางธุรกิจอยู่แล้ว แต่ถ้าจะมาด้วยเหตุผลอื่น ระวังผมจะซัดกลับจนหงายก็แล้วกัน”

พูดจบไทโรนก็ก้าวเดินผ่านร่างของโทมัสและพุดแก้วเข้าไปด้านในของไนต์คลับ

“แกทำพลาดอีกแล้วนะนังพุด”

โทมัสหยิกต้นแขนเปลือยของน้องสาวเต็มแรง จนพุดแก้วอุทานด้วยความเจ็บ น้ำตาไหลพรากน่าเวทนา

“พุด... พุดพยายามแล้ว แต่เขา... เขารู้ทันพุดทุกอย่าง”

“ก็แกมันโง่ยังไงล่ะ โง่เหมือนพ่อของแกนั่นแหละ”

โทมัสเป็นลูกติดของแม่เลี้ยงหล่อน พ่อของหล่อนเป็นคนไทย เดินทางมาทำงานที่อเมริกา มาพบรักกับแม่เลี้ยงที่มีลูกชายติดมาด้วย ไม่นานทั้งคู่ก็แต่งงานกัน หล่อนคิดว่าชีวิตจะดีขึ้น แต่แม่เลี้ยงก็คือแม่เลี้ยงวันยังค่ำ หล่อนถูกกดขี่ข่มเหงจากแม่เลี้ยงใจร้าย พ่อของหล่อนที่ฐานะด้อยกว่าก็ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้ ทำได้แค่ปลอบใจหล่อนตอนที่แม่เลี้ยงไม่อยู่เท่านั้น จนเมื่อห้าปีก่อนท่านสิ้นใจจากไป หล่อนถึงได้รู้ว่านรกที่ลิ้มรสอยู่มันยังไม่ลึกที่สุด

“อย่าว่าพ่อเลยนะ พุดขอร้อง...”

เพลี๊ย!

ใบหน้างามหันไปตามแรงปะทะจากฝ่ามือใหญ่ของโทมัส เลือดสีแดงสดไหลออกมาจากมุมปากข้างที่ถูกทำร้าย ความจริงหล่อนควรจะชาชินได้แล้วกับการถูกทำร้ายแบบนี้จากพี่ชายและมารดา แต่จนแล้วจนรอดก็ยังเจ็บปวดอยู่ดี

“แกหุบปากไปเลยนะนังพุด กลับบ้านไป แกถูกยำใหญ่แน่”

“โอ๊ย... พุดเจ็บ พี่ทอม...”

โทมัสไม่สนใจกระชากผมของพุดแก้วลากไปยังรถที่จอดอยู่ ร่างอรชรถูกผลักขึ้นรถ ก่อนที่รถยนต์จะแล่นออกไปด้วยความเร็ว

พุดแก้วร้องไห้ไปตลอดทาง เพราะรู้ดีว่าเมื่อถึงบ้านแล้ว หล่อนจะต้องตกนรกขุมไหน...

แม้ว่าการทำหน้าที่พยาบาลประจำตัวของอภิมหาเศรษฐีจะได้ค่าตอบแทนสูงลิบ แต่กระนั้นความเป็นส่วนตัวก็หายากยิ่งกว่าเข็มในห้วงมหาสมุทร หล่อนต้องทำงานเจ็ดวันเต็ม ตั้งแต่จอร์จตื่นนอนจนถึงเวลาที่เขาเข้านอนแล้วนั่นแหละจึงจะมีเวลาพัก แต่หล่อนโชคดีกว่าคนอื่นก็ตรงที่จอร์จ คูล คาร์ตัน ใจดีและเมตตาหล่อนมากนั่นเอง

“วันนี้ฉันให้หนูลิลลี่พักผ่อนได้หนึ่งวัน หนูออกไปเปิดหูเปิดตานอกบ้านได้ตามใจเลยนะ”

ลิลลี่ยกมือขึ้นพนมที่กลางอกและโน้มใบหน้านำหน้าผากมาจรดที่ปลายนิ้วด้วยกิริยางดงามอ่อนช้อย ความจริงวันนี้หล่อนนัดกับโจเซฟเอาไว้ในช่วงหัวค่ำช่วงที่จอร์จเข้านอนแล้ว แต่เหมือนชายชราจะรู้ว่าหล่อนกำลังต้องการเวลาส่วนตัว

“ขอบคุณค่ะ คุณจอร์จ แต่ลิลลี่...”

“อย่าเกรงใจฉันเลย ตั้งแต่หนูลิลลี่มาดูแลฉัน เนี่ยก็เกือบจะครบปีแล้ว หนูลิลลี่ไม่เคยได้หยุดพักผ่อนแม้แต่วันเดียว เอาเป็นว่ามันคือโบนัสจากฉันก็แล้วกันนะ”

“แต่ลิลลี่เป็นห่วงคุณจอร์จค่ะ”

หญิงสาวเต็มไปด้วยความเป็นกังวล และอดจะหวั่นเกรงต่อความขุ่นเคืองของดีแลนไม่ได้ หากเขารู้เข้าว่าหล่อนไม่อยู่ดูแลจอร์จ หล่อนคงถูกตำหนิอีกมากมายแน่

“ลิลลี่ขออยู่ดูแลคุณจอร์จนะคะ ลิลลี่ไม่มีธุระด่วนอะไรหรอกค่ะ”

จอร์จระบายยิ้มและยกมือขึ้นโบกไปมาคล้ายกับไม่เห็นด้วย

“ไปเถอะ วันนี้ฉันต้องการความเป็นส่วนตัวน่ะ อยากนั่งคิดอะไรคนเดียว”

“แต่...”

“ห้ามมีแต่เด็ดขาด”

น้ำเสียงของชายชราดุดันขึ้นกว่าเวลาปกติเล็กน้อย จนคนที่จะค้านต้องก้มหน้ารับคำ

เมื่อเห็นลัลลลินไม่คัดค้าน จอร์จก็อมยิ้ม และพูดขึ้น

“พาฉันเข้าห้องเถอะ แล้วก็สั่งให้แม่มาเรียดูแลเรื่องอาหารและก็ยาสำหรับมื้อกลางวันให้กับฉัน”

แม้จะรู้สึกไม่สบายใจเลยกับการที่ต้องละทิ้งหน้าที่ไป แต่คำสั่งของจอร์จก็ถือว่าเป็นที่สุดที่หล่อนไม่สามารถคัดค้านได้

“ค่ะ คุณจอร์จ”

หญิงสาวเข็นรถของจอร์จเข้าไปในห้องพัก ประคองท่านให้นอนพิงกับหมอนใบใหญ่ที่วางตั้งไว้กับหัวเตียง จากนั้นก็คุกเข่าลงกับพื้น

“ถ้าคุณจอร์จต้องการอะไรด่วน โทรตามลิลลี่ได้ตลอดเวลาเลยนะคะ”

จอร์จอมยิ้ม มองสตรีสาวสวยตรงหน้าด้วยสายตาพึงพอใจ

“นี่ถ้าฉันชอบผู้หญิงนะ หนูลิลลี่จะเป็นผู้หญิงคนแรกที่ฉันคิดจะชอบ”

“ลิลลี่คงโชคดีที่สุดในโลกเลยค่ะ”

ลัลลลินรู้ดีว่าจอร์จแค่พูดเล่น ไม่ได้คิดจริงจังอะไร เพราะรสนิยมทางเพศนั้นเปลี่ยนแปลงกันไม่ได้ง่ายๆ หล่อนจึงยิ้มหวานให้กับคู่สนทนาโดยไม่ได้คิดอะไร แต่คนที่เดินมาหยุดอยู่ที่ประตูห้องที่เปิดค้างอยู่กลับไม่ได้คิดแบบนั้น

บทก่อนหน้า
บทถัดไป